Design a site like this with WordPress.com
เริ่มได้

เบื้องหลังความสูญเสียจากแผ่นดินไหวอย่างมหาศาลในตุรเคียและซีเรีย

โดย คิริฮาระ

ภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวล่าสุดในตุรเคียและซีเรียสร้างความสะเทือนใจให้แก่ชาวโลกอย่างมาก ราวกับเป็นวันสิ้นโลก เนื่องจากตัวเลขผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว ณ วันที่ 19 ก.พ. ซึ่งเกิดขึ้น 2 ครั้งในตอนใต้และตะวันออกเฉียงใต้ของตุรเคียและตอนเหนือของซีเรีย สูงมากจนน่าตกใจ คือเกิน 46,000 คน โดยแบ่งเป็นชาวตุรเคีย 40,642 คน และชาวซีเรียราว 5,800 คน เป็นเวลาเกือบสามสัปดาห์ของการกู้ภัย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้สูญหายหรือเสียชีวิตมากขึ้น

สาเหตุของการเสียชีวิตจำนวนมากนี้เป็นผลพวงมาจากความไม่ใส่ใจและการให้ความสำคัญกับอาคารสิ่งปลูกสร้างมาก่อนความปลอดภัยของประชาชน ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี เรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ที่กดขี่กลุ่มชาติพันธ์ุ และให้ประโยชน์แก่นายทุนอสังหาริมทรัพย์จนละเลยประโยชน์ของคนธรรมดา

การขาดความเอาใจใส่และการเลือกปฏิบัติของรัฐบาลตุรเคียและซีเรีย

กล่าวคือ รัฐบาลได้ตัดข้อยกเว้นบางประการในกฎหมายความปลอดภัยของอาคารสิ่งปลูกสร้างเพื่อแลกกับค่าธรรมเนียมให้แก่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ในพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหวทำให้อาคารถึง 75,000 หลังถล่มลงมา ซึ่งได้รับการ “นิรโทษกรรมทางการก่อสร้าง” ดังรายงานของสภาวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมแห่งตุรเคีย แทนที่จะต้องรับผิดชอบและสอบสวนดำเนินคดีกับบริษัทที่ไม่ทำตามกฎหมาย หนำซ้ำกฎหมายใหม่ที่กำลังรอการอนุมัติจากรัฐสภายังเพิ่มการนิรโทษกรรมให้แก่บริษัทที่กำลังก่อสร้างอาคารอีกด้วย

อาคารกว่า 6,000 หลังได้พังทลายลงในพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติ ตามกฎหมายระบุว่า คอนกรีตต้องได้รับการเสริมด้วยเหล็กเส้น และในส่วนของเสาแนวตั้งและคานในแนวนอนต้องสามารถรับแรงกระแทกจากการสั่นสะเทือนได้ หากปฏิบัติตามกฎหมายก็จะป้องกันความเสียหาย ทว่ากลับกลายเป็นสิ่งตรงข้าม คานที่ไม่แข็งแรงทำให้พื้นของแต่ละชั้นทรุดลงมาทับถมกัน ทำให้เกิดคำถามใหญ่ว่า เกิดอะไรขึ้นกับเงินบริจาคก้อนโตที่รวบรวมผ่านการเก็บ “ภาษีสมานฉันท์เพื่อบรรเทาผลกระทบจากแผ่นดินไหว” ที่เก็บหลังจากเกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี 1999 เพราะกองทุนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้สำหรับสร้างอาคารที่ทนทานต่อแผ่นดินไหวในอนาคต

นอกจากนี้ นายแอร์โดอันยังตอบสนองต่อภัยพิบัติ ด้วยการเพิ่มอำนาจรัฐกดขี่ โดยเฉพาะชาวเคิร์ด ที่กลายเป็นกลุ่มเปราะบางไม่ได้รับความช่วยเหลือเท่าที่ควรดังที่เกิดขึ้นในอดีต ทั้งยังโยนความผิดไปที่ผู้ได้รับผลกระทบว่า เป็นพวกที่ชอบโวยวายและขโมยข้าวของ

ปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ใน 10 จังหวัดจากทั้งหมด 81 จังหวัดในตุรเคียใช้เวลาหลายวันกว่าจะเข้าถึงหมู่บ้านบางแห่ง เนื่องจากถนนชำรุด แต่เนื่องจากทรัพยากรที่ใช้นั้นมีน้อยเกินไป อีกทั้ง ขณะนี้หน่วยงานด้านภัยพิบัติพลเรือนราว 15,000 คน ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ กลับมีบทบาทหลักในการกู้ภัย

ในกรณีของซีเรีย ประชาชนถูกปล่อยให้รอความช่วยเหลืออย่างหมดหนทาง มีบ้านจำนวนหลายหลังในเขต Atme, Sermede, Darkus และ Harim เสียหาย และยังขาดทีมค้นหาและกู้ภัย

งบช่วยเหลือจากรัฐบาลตะวันตกน้อยลง

รัฐบาลหลายประเทศให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน แต่พบว่า งบประมาณที่ให้จำกัดมาก เช่น รัฐบาลอังกฤษลดปริมาณความช่วยเหลือแก่ซีเรียลงครึ่งหนึ่งจาก 180 ล้านปอนด์ในปี 2020 เป็น 90 ล้านปอนด์ในปี 2021 ทว่าอังกฤษสนับสนุนการทำสงครามกลางเมืองในซีเรีย ทิ้งระเบิดทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ระบบการบริการสุขภาพและการบรรเทาทุกข์ ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหว UN กล่าวว่า ประชากรชาวซีเรียถึงร้อยละ 70 ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากภายนอก และรัฐบาลตะวันตกเหล่านั้นไม่ยินดีที่จะเปิดประตูรับผู้ที่สิ้นหวัง เพราะตอนนี้มีผู้ลี้ภัยจากเคอร์ดิสถานและซีเรียอยู่ทั่วยุโรป

ยอดผู้เสียชีวิตจำนวนมากเผยให้เห็นถึงความล้มเหลวของระบบที่ขับเคลื่อนด้วยการเมืองเลือกปฏิบัติของพวกมหาอำนาจและให้ผลประโยชน์แก่ภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น สึนามิ น้ำท่วม และความแห้งแล้ง ซึ่งยังมีปัจจัยจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เป็นตัวเร่งให้เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติดังกล่าว และคร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก

การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรียของสหรัฐฯ

สหรัฐฯ ออกมาตรการยกเว้นการคว่ำบาตรซีเรียเป็นเวลา 180 วัน ซึ่งบังคับใช้กับการทำธุรกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการบรรเทาเหตุแผ่นดินไหว หัวหน้ากลุ่มเสี้ยววงเดือนแดงอาหรับซีเรียได้ให้ข้อมูลว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และชาติตะวันตกขัดขวางความพยายามในการบรรเทาความเดือดร้อนอย่างไร และผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ Alena Douhan ยังบอกว่า ชาติตะวันตกควรให้ความช่วยเหลือแก่ซีเรียมากกว่านี้คือ ทุกรัฐควรยกเลิกการคว่ำบาตรซีเรียเพื่อเปิดทางให้มีความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เช่น การบริจาค การโอนเงิน และไม่ให้ลงโทษผู้บริจาค ธนาคาร หรือผู้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวซีเรีย แม้เรื่องนี้จะประสบความสำเร็จ แต่สหรัฐฯ ไม่สนับสนุนการสร้างอาคารใหม่ของซีเรีย

พรรคแรงงานสังคมนิยมปฏิวัติแห่งตุรเคีย (The Revolutionary Socialist Workers Party-DSIP) ได้ออกมาประณามการไร้ความสามารถในการกู้ภัย การกดขี่ชาวเคิร์ด และการไม่เตรียมการป้องกันหายนะของรัฐบาลตุรเคีย ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์เตือนภัยก่อนหน้าให้ระวังการเกิดแผ่นดินไหวในแคว้น Kahramanmaras สิ่งที่ต้องทำคือ รัฐบาลต้องรวบรวมทรัพยากรทั้งหมดเพื่อช่วยชีวิตและดูแลความเป็นอยู่ของคนธรรมดา เราต้องสมานฉันท์กับผู้อพยพ ด้วยการขอให้รัฐบาลตะวันตกเปิดพรมแดนต้อนรับพวกเขาเพื่อให้พวกเขาปลอดภัย ไม่เกิดการสูญเสียอีก

อ้างอิง
Profit system and imperialism behind earthquake deaths in Turkey and Syria. (14 ก.พ.66). จากเว็บไซต์พรรคแรงงานสังคมนิยมอังกฤษ (Socialist Workers Party)


ถ้าเห็นด้วยกับแนวทาง “องค์กรสังคมนิยมแรงงาน” เชิญสมัครสมาชิก https://forms.gle/2apcTWX7sB9YCVhU6

บทความอื่น ๆ 

Create a website or blog at WordPress.com