โดย สหายเยเกอร์และไผ่แดง
ท่ามกลางกระแสการเลือกตั้งหลายพรรคการเมืองได้นำเสนอนโยบายปฏิรูปกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกล ที่เสนอว่าให้มีการยกเลิกเกณฑ์ทหาร เอาทหารออกจากการเมือง เพิ่มสวัสดิการทหารชั้นผู้น้อย ปฏิรูปการศึกษาทหาร ยกเลิกศาลทหาร (ในสถานการณ์ปกติ) ลดจำนวนทหาร เป็นต้น หรือทางฝั่งพรรคเพื่อไทยก็เสนอให้มีการปฏิรูปกองทัพเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นการป้องกันทหารแทรกแซงการเมือง และลดขนาดของกองทัพ เป็นต้น
ในการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่ใกล้จะถึงนี้ ความหวังของประชาชนที่คาดหวังกับนโยบายปฏิรูปกองทัพให้เป็นจริง เพื่อที่จะไม่ต้องเกณฑ์ทหาร ตัดผมเกรียนขาว 3 ด้าน และสิ่งที่สำคัญที่องค์กรสังคมนิยมแรงงานเราตระหนักคือ การรัฐประหาร
ประวัติศาสตร์ไทยที่ผ่านมาตั้งแต่หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 กองทัพได้แทรงแซงการเมืองตลอดมา อีกทั้งยังคอยบ่อนทำลายประชาธิปไตย เข่นฆ่า และปราบปรามประชาชนด้วยความรุนแรง ( 14 ตุลา 2516 , 6 ตุลา 2519, พฤษภาทมิษ 35, รถฉีดน้ำใส่กลุ่มขบวนการหนุ่มสาวปี 63) แน่นอนว่าเราเห็นด้วยกับการปฏิรูปกองทัพ เพราะทุกวันนี้กองทัพเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยและเสรีภาพของประชาชนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปคุกคามคนใน 3 จังหวัดชายแดนผ่านการใช้กฎอัยการศึกควบคุมเสรีภาพของคนในพื้นที่ จะเห็นได้ว่ารัฐทุนนิยมอาศัยกลไกรัฐโดยเฉพาะทหาร เข้าควบคุมพลเมืองเพื่อให้ยอมรับเงื่อนไขของรัฐ
แม้ว่าหลายพรรคการเมืองมีนโยบายปฏิรูปกองทัพที่น่าสนใจจากที่กล่าวไปข้างต้น แต่ทว่ามันเพียงพอแล้วหรือ ? ในฐานะมาร์กซิสต์เรามองว่า ในรัฐทุนนิยมที่เป็นเผด็จการทหารอย่างประเทศไทยมีการใช้ระบบอุปถัมภ์ที่เข้มข้นไปจนถึงระบบโซตัส (Sotus) ในสถานศึกษาที่ใช้ลำดับชนชั้น (hierarchy) จากบนสู่ล่างและยังทำลายจิตสำนึกทางกรรมาชีพที่ไม่กล้ากล่าวถึงปัญหานายจ้างในที่ทำงานอีกด้วย อีกทั้งยังกล่อมเกลาให้พลเมืองมองว่าสิ่งเหล่านี้เรื่องปกติ มีหลายกรณีที่เป็นภาพสะท้อนของปัญหาของระบบทหารได้อย่างดีในประเทศไทย เช่นคดีฆาตกรรมสตรี อินฟลูเอนเซอร์ที่ถูกแฟนหนุ่มที่เป็นลูกทหารยศใหญ่ฆ่า และครองครองอาวุธมากมายไว้กับตัว หรืออีกกรณีคือ คดีการกราดยิงโดยเจ้าหน้าที่รัฐผู้น้อยที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ผ่านมา อีกทั้งกรณีดังกล่าว ยังสะท้อนให้ถึงเห็นได้ว่าระบบโครงสร้างที่เป็นอยู่ได้กล่อมเกลาคนด้วยแนวคิดคลั่งปืนโดยคนส่วนน้อยและแนวคิดการแบ่งชนชั้น โดยผลักให้คนส่วนใหญ่ซึ่งไร้อาวุธเป็นสิ่งระบาย ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาเหล่านี้ตามมา
ดังนั้นการปฏิรูปกองทัพนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อเป็นการเพิ่มประชาธิปไตยทางการเมือง และเสรีภาพให้กับกรรมาชีพและผู้ถูกกดขี่ เพราะนักมาร์กซิสต์เราให้ความสำคัญกับการปฏิรูปเล็ก ๆ น้อย ทางองค์กรสังคมนิยมก็มีข้อเสนอปฏิรูปกองทัพและตำรวจเช่นกันว่า ต้องไม่ผูกขาดความรุนแรง เน้นให้ประชาชนดูแลความปลอดภัยของแทน ตำรวจและกองทัพจะต้องอยู่ใต้การควบคุมของประชาชนอย่างเป็นประชาธิปไตยและโปร่งใส พร้อมกับต้องมีสิทธิ์ในการกำหนดการทำงานของกองทัพและตำรวจ รวมถึงควรจะจำกัดบทบาททหารในทางการเมือง เป็นต้น
แต่ในอีกทางหนึ่งข้อเสนอระยะยาวเรามองว่าควรจะต้องปฏิวัติสร้างสังคมนิยม และยกเลิกระบบกองทัพเหล่านี้ไป เพื่อไม่ให้ใครต้องมาเผชิญกับความรุนแรงเชิงระบบเหล่านี้อีก
อ้างอิง
- Lenin. State and Revolution จาก Marxists internet archive
- อึ๊งภากรณ์, ใจ. (2561). เราสามารถปฏิรูปตำรวจได้หรือไม่ จาก Turnleft Thailand